แต่เอาเถอะครับ ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่ยังไม่ทราบว่า MB กับ Mb มีความหมายต่างกันตรงไหน ในวงการไอทีการใช้ MB และ Mb ควรที่จะต้องใช้ให้ถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าหมายถึงอะไรครับ
ความจุข้อมูล
สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลไม่ว่าจะเป็น Hard Disk, Flash Drive, Memory Card หรือหน่วยความจำแบบต่างๆอย่าง RAM จะมีการระบุขนาดความจุข้อมูลที่สามารถจุได้ในอุปกรณ์ดังกล่าว และหน่วยที่ใช้ระบุความจุของข้อมูลก็คือ Byte ตัวย่อที่ใช้คือ B เช่น KB(กิโลไบต์) MB(เมกะไบท์) GB(กิกะไบต์) เป็นต้น ซึ่งจะเห็นว่าคำว่า Byte จะใช้ตัวย่อบีใหญ่เป็นมาตรฐาน
Byte ใช้ตัวย่อ B
ความเร็วในการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์นั้น มีรูปแบบการสื่อสารอยู่หลายแบบ แต่จะมีหน่วยของความเร็วในการสื่อสาร หรือจะเรียกให้ถูกต้องว่าแบนด์วิธ(Bandwidth) เหมือนกันคือ บิตต่อวินาที (b/s) เช่น Kbps(กิโลบิตต่อวินาที) Mbps(เมกะบิตต่อวินาที) Gbps(กิกะบิตต่อวินาที) จะเห็นว่าคำว่า Bit จะใช้ตัวย่อบีเล็กเป็นมาตรฐาน(Kbps สามารถเขียนเป็น Kb/s ได้)
Bit ใช้ตัวย่อ b
สรุป
Bit และ Byte มีความหมายที่แตกต่างกัน ในการปฏิบัติงานด้านไอทีนั้น หากใช้ตัวย่อผิดความหมายก็จะผิด และอาจเกิดความผิดพลาดในการปฏิบัติงานได้ ถึงแม้เราจะพอเดาได้ว่าหมายถึงความจุข้อมูลหรือความเร็วในการสื่อสารข้อมูลก็ตาม แต่การใช้ให้ถูกต้องจะเป็นมาตรฐานและทำให้เราเข้าใจตรงกันได้ ดังนั้นควรใส่ใจใช้ให้ถูกต้องกันนะครับ
SPONSOR :
Big C เริ่มช้อปออนไลน์ กับสินค้าหลากหลายได้แล้ววันนี้
Roojai.com ประกันรถออนไลน์ รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า
สมัครบัตร KTC PROUD เป็นทั้งบัตรกดเงินสด และบัตรผ่อนสินค้า
ADIDAS แบรนด์ผู้นำด้านกีฬายอดฮิต อาทิ รองเท้า กระเป๋า ชุดออกกำลังกาย และ เสื้อผ้า
เลือกช็อป ANELLO กระเป๋าแบรนด์ชื่อดังจากญี่ปุ่น